วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หลักการใช้ There is / There are
ทั้งสองคำนี้แปลว่า มี นึกถึงตอนที่เรียนภาษาอังกฤษใหม่ๆ เคยแปลสองคำนี้ว่า ที่นั่นคือ เพราะ There แปล่ว่า ที่นั่น is แปลว่า คือ รวมกันเป็น ที่นั่นคือ หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วแปลว่า มี
คำแปลเหมือนกัน แต่เวลานำไปใช้งานไม่เหมือนกันนะครับ มีเรื่อง เอกพจน์ พหูพจน์ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ถ้ารู้หลักการแล้วก็ง่ายเลยครับ
หลักการใช้ There is
  • โครงสร้าง There is + นามเอกพจน์/ นามนับไม่ได้
There is a bottle of beer in the fridge.แด ริส สะ บ๊อทเทิล ลอฟ เบีย ริน เดอะ ฟริจ (มีเบียร์หนึ่งขวดในตู้เย็น)
There is some beer in the glass.แด ริส ซัม เบีย ริน เดอะ แกลส (มีเบียร์เหลือนิดหน่อยในแก้ว)
There is a glass of water on the table.แด ริส สะ แกลส สอฟ ว๊อเทอะ รอน เดอะ เท๊เบิล (มีน้ำหนึ่งแก้วบนโต๊ะ)
There is some water on floor.แด ริส ซัม ว๊อเทอะ รอน เดอะ ฟลอ (มีน้ำนิดหน่อยบนพื้น)
There is a cat under the tree.แด ริส สะ แค๊ท ทั๊นเดอะ เดอะ ทรี (มีแมวหนึ่งตัวใต้ต้นไม้)
There is a bird in the classroom.แด ริส สะ  เบิด ดิน เดอะ คลาสรุม (มีนกหนึ่งตัวในห้องเรียน)
หลักการใช้ There are
  • โครงสร้าง There are + นามพหูพจน์
There are ten men in the room.แด รา เท็น เม็น นิน เดอะ รูม (มีชายสิบคนในห้อง)
There are three women in the car.แด รา ทรี วี๊มิน นิน เดอะ คา (มีผู้หญิงสามคนในรถ)
There are a snake and a rat in my house.แด ริส สะ สเนค เคิน ดะ แร็ท ทิน มาย เฮาส (มีงูหนึ่งตัวและหนูหนึ่งตัวในบ้านของผม)
There are a lot of people in the market.แด รา ระ ล๊อท ทอฟ พี๊เพิล ลิน เดอะ ม๊าคิท (มีคนจำนวนมากในตลาด)
There are some boys in the kitchen.แด รา ซัม บอย ซิน เดอะ คิทเชิน (มีเด็กชายบางคนในห้องครัว)
ที่มา:http://x12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/

ที่มา:http://www.allada.org/images/stories/175.jpg

บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร

บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหารเป็นบทสนทนาภาษาอังกฤษอีกหนึ่งสถานการณ์ที่เราจะนำมาฝากเพื่อนๆในวันนี้ค่ะ ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหารเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสนทนาภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติในหัวข้อที่เกี่ยวกับห้องอาหาร ร้านอาหาร หรือภัตตาคารได้ค่ะ ไม่แน่ว่าถ้าเราหมั่นฝึกพูดบ่อยๆบทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหารนี้อาจจะช่วยให้เราเอาชีวิตรอดจากร้านอาหารในต่างแดนได้ง่ายๆเลยก็ได้ค่ะ อย่ารอช้าเรามาฝึกบทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหารไปพร้อมๆกันค่ะ
บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร

1. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: จองโต๊ะอาหาร

A : (On the phone) Four Seasons Restaurant. May I help you?
(ออน เธอะ โฟน) โฟร์ ซีซันส์ เรสเตอรันท เมย์ ไอ เฮลพ ยู
(ขณะสนทนาทางโทรศัพท์) ภัตตาคาร 4 ซีชั่น มีอะไรให้รับใช้คะ
B : Yes. I’d like to make a reservation for dinner tomorrow.
(เยส ไอ’ด ไล้ค ทู เมค อะ เรเซอร์เวชั่น ฟอร์ ดินเนอร์ ทูมอร์โรว)
ครับ ผมต้องการจองโต๊ะรับประทานอาหารเย็นวันพรุ่งนี้
A : I see. What time will you come, sir?
(ไอ ซี ว้อท ไทม์ วิล ยู คัม เซอร์)
ตกลงค่ะ คุณจะมาถึงกี่โมงคะ
B : Around 7.
(อะราว เซเว่น)
ประมาณหนึ่งทุ่มครับ
A : May I have your name, please ?
(เม ไอ แฮฟว ยัวร์ เนม พลีส)
ขอทราบชื่อของคุณด้วยค่ะ
B : Mike Chen.
(ไมค์ เชน)
ไมค์ เชน
A : How many will be in your party ?
(ฮาว เมนี่ วิล บี อิน ยัวร์ ปาร์ตี้)
จะมีผู้มาร่วมงานกี่ท่านคะ
B :   Three. I’d prefer a table by the window.
(ทรี ไอ’ด พรีเฟอร์ อะ เทเบิ้ล บาย เธอะ วินโด้ว)
3 คนครับ ผมต้องการโต๊ะใกล้หน้าต่างด้วยนะครับ
——————————
A : Do you have a table for two ?
(ดู ยู แฮฟว อะ เทเบิ้ล ฟอร์ ทวู)
คุณมีที่นั่งสำหรับ 2 ที่ไหมครับ
B : Do you have a reservation ?
(ดู ยู แอฟว อะ เรเซอร์เวชั่น)
ไม่ทราบคุณจองที่ไว้หรือเปล่าคะ
A : No.
(โน)
ไม่ครับ
B : I’m sorry, but there’re no tables available now.
(ไอ’ม ซอรี่ บัท แธร์’ร โน เทเบิ้ล อะไวลเลเบิ้ล นาว)
ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่เรายังไม่มีที่ว่างตอนนี้เลย
A : How long will it be ?
(ฮาว ลอง วิล อิท บี)
จะใช้เวลานานแค่ไหนครับ
B : I’m not sure…. In about 20 minutes ? Would you like to wait in the bar?
(ไอ,ม น้อท ชัวร์…. อิน อะเบ้าท์ ทเว้นตี้ มินนิทส์ วู้ด ยู ไล้ค ทู เวท อิน เธอะ บาร์)
ดิฉันไม่แน่ใจ ประมาณ 20 นาที ไม่ทราบว่าคุณจะรอที่บาร์ได้ไหมคะ
A : Fine. Please call us when you have a table.
(ไฟน์ พลีส คอล อัส เว็น ยู แฮฟว อะ เทเบิ้ล)
ได้ครับ กรุณาเรียกเราเมื่อมีที่ว่างครับ
——————————
A : Shogun Restaurant. (ร้านอาหารโชกุนค่ะ)
B : Hi, I would like to make a dinner reservation. (ค่ะ ฉันอยากจะทำการจองโต๊ะค่ะ)
A : Of course, what evening will you be joining us on? (ได้ค่ะ คุณอยากจะจองในเย็นไหนคะ)
B : We will need the reservation for Tuesday night. (เราอยากจะจองในคืนวันอังคาร)
A : What time would you like the reservation for? (คุณอยากจะจองในเวลาเท่าไหร่)
B : We would prefer 7:30 pm. (เราอยากจองทุ่มครึ่ง)
A : How many people will you need the reservation for? (คุณจะจองสำหรับคนจำนวนเท่าไหร่คะ)
B : There will be 4 of us. (สี่ท่านค่ะ)
A : Fine, 7:30 on Tuesday, may i have your name. (ค่ะ หนึ่งทุ่มสามสิบนาที วันอังคาร ขอทราบชื่อคุณด้วยค่ะ)
B : My name is Sara. (ฉันชื่อซาร่าค่ะ)
A : See you at 7:30 this Tuesday, Ms. Sara. (เจอกันทุ่มสามวันอังคารนี้นะคะ คุณซาร่า)
B : Thank you so much. (ขอบคุณมากค่ะ)
——————————————————————————————————
2. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: ที่ร้านอาหารหรือภัตตาคาร
A : May I take your order, sir ?
(เม ไอ เทค ยัวร์ ออร์เดอร์ เซอร์)
คุณจะสั่งอาหารอะไรดีคะ
B : Yes. This gentleman will have the beef stew, and I’ll have the sirloin steak.
(เยส ธีส เจนเทิลแมน วิล แฮฟว เธอะ บีฟ สตูล แอนด์ไอ’ล แฮฟว เธอะ ซิลอย สเต็ก)
ครับ คุณผู้ชายคนนี้ขอรับสตูลเนื้อ และของผมขอสเต็กเนื้อครับ
A : Yes, sir. And how would you like your beef ?
(เยส เซอร์ แอนด์ ฮาว วู้ด ยู ไล้ค ยัว บีฟ)
ได้ค่ะ และคุณต้องการเนื้อสุกแบบไหนคะ
B : Well-done, please.
(เวล-ดัน พลีส)
ขอสุกๆครับ
A : How about you, sir ?
(ฮาว อะเบ้าท์ ยู เซอร์)
แล้วสำหรับคุณล่ะคะ
C : Medium-rare, please.
(มีเดียม-แรร์ พลีส)
ขอปานกลางครับ
A : Yes, sir. Would you like a drink first with your meal ?
(เยส เซอร์ วู้ด ยู ไล้ค อะ ดริ้ง เฟริสท์ วิธ ยัวร์ มีล)
ค่ะ คุณต้องการจะรับเครื่องดื่มก่อนหรือไม่คะ
B : Why don’t we have cocktails ?
(วาย โด้น วี แฮฟว ค้อกเทลส์)
ทำไมเราไม่ลองเป็นค้อกเทล
——————————
A : This was a splendid meal. I really enjoyed it.
(ธีส ว้อส ระ สเพลนดิด มีล ไอ เรียลรี่ เอ็นจอยด์ อิท)
อาหารมื้อนี้เป็นอาหารที่วิเศษที่สุด ผมรู้สึกอิ่มอร่อยจริงๆ
B : I’m glad you like it. Will you have a cognac to round off the meal ?
(ไอม แกรด ยู ไล้ค อิท วิล ยู เฮฟว อะ คองยัค ทู เรานด ออฟ เธอะ มีล)
ดิฉันรู้สึกยินดีที่คุณชอบ ไม่ทราบคุณจะรับบรั่นดีตบท้ายมื้ออาหารไหมคะ
A : I don’t mind if you do.
(ไอ โด้น มายด์ อีฟ ยู ดู)
ผมไม่ครับ ถ้าคุณต้องการ
C : Waiter, show me the cognac list.
(เวทเทอร์ โชว์ มี เธอะ คองยัค ลิสท์)
บริกรครับ ให้ผมดูรายการบรั่นดีหน่อยครับ
B :   Yes, sir.
(เยส เซอร์)
ได้ค่ะท่าน
——————————————————————————————————
3. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
A : Welcome, what would you like to order? (ยินดีต้อนรับครับ คุณอยากสั่งอะไรครับ)
B : I would like to get a double cheeseburger. (ฉันอยากได้ชีสเบอร์เกอร์สองชิ้นค่ะ)
A : Would you like everything on it? (คุณอยากใส่รวมทุกอย่างใช่ไหมครับ)
B : I would like everything on it, thank you. (ฉันต้องการใส่ทุกอย่างเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ)
A : Do you want any fries? (คุณจะรับมันฝรั่งทอดด้วยไหมครับ)
B : Let me get some large fries. (เอามันฝรั่งทอดใหญ่ให้ฉันค่ะ)
A : Would you like anything to drink? (คุณต้องการเครื่องดื่มอะไรไหมครับ)
B : I want a glass of Pepsi? (ฉันขอเปปซี่แก้วนึงค่ะ)
A : OK, just moment (โอเคครับ รอสักครู่นะครับ)
B : Thank you. (ขอบคุณค่ะ)
——————————
You : Hi. I want two chicken burger and one caesar salad? (สวัสดีค่ะ ฉันอยากได้เบอร์เกอร์ไก่ 2 ชุดและซีซ่าส์สลัด 1 ชุด)
Seller : What would you like to drink? (จะรับเครื่องดื่มอะไรดีค่ะ?)
You : Can I have just a cup of water? (ขอแค่แก้วเปล่าค่ะ)
Seller : Sure. Anythingelse? (ค่ะ. รับอะไรเพิ่มมั้ยคะ?)
You : No. (ไม่ค่ะ)
Seller : Alright. That’s gonna be 18.85 dollars please. (ทั้งหมดคิดเป็นเงิน 18.85 ดอลล่าส์ค่ะ)
You : Here you go. (นี่ค่ะเงิน)
Seller : Thank you. Salad will be served at the table in two minutes. (ขอบคุณค่ะ. สลัดจะเสริฟที่โต๊ะของคุณในอีก 2 นาทีค่ะ)
——————————————————————————————————
4. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: สั่งอาหารและเครื่องดื่ม
A : What will you have, sir ?
(ว้อท วิล ยู แฮฟว เซอร์)
คุณจะสั่งอะไรดีคะ
B : Just a moment, please. I haven’t decided yet.
(จัส อะ โมเม้นท์ พลีส ไอ แอฟววึ่น ดีไซด์ด เยท)
รอสักครู่ครับ ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ
B : What do you recommend?
(ว้อท ดู ยู เรคคอมเมนด์)
ไม่ทราบคุณจะแนะนำอาหารอะไรดีครับ
A : Our specialty for the day is roast duck.
(เอาว สเปเชียลที่ ฟอ เธอะ เดย์ อีส โรสท์ ดักค์)
อาหารพิเศษของเราวันนี้คือเป็ดอบค่ะ
A : What would you like for dessert ?
(ว้อท วู้ด ยู ไล้ค ฟอ ดีเซริท)
ไม่ทราบคุณจะรับของหวานอะไรดีคะ
B : I’ll skip the dessert.
(ไอ’ล สคิป เธอะ ดีเซริท)
ผมขอไม่รับของหวานครับ
B : This is not what I ordered.
(ธีส อีส น้อท ว้อท ไอ ออร์เดอร์ด)
จานนี้ไม่ใช่ที่ผมสั่งไปนี่ครับ
A : I’m sorry, sir.
(ไอม ซอรี่ เซอร์)
ขอโทษด้วยค่ะท่าน
——————————
A : Can I start you off with anything to drink? (คุณจะรับอะไรดีสำหรับเครื่องดื่มครับ)
B : Yes, may I have some water, please? (ค่ะ ฉันขอน้ำเปล่าได้ไหมค่ะ)
A : Sure, would you like any appetizers today? (ได้ครับ วันนี้คุณจะสั่งอาหารเรียกน้ำย่อยอะไรไหมครับ)
B : May I get an order of barbeque wings? (ฉันจะสั่งปีกไก่บาร์บีคิวได้ไหมคะ)
A : No problem, can I get you anything else? (ไม่มีปัญหา คุณจะรับอะไรอีกไหมครับ)
B : No, thank you, that’ll be all for now. (ไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ พอเท่านี้ก่อนค่ะ)
A : Let me know when you’re ready to order your food. (แจ้งให้ผมทราบด้วยครับเมื่อคุณพร้อมสั่งอาหาร)
B : I’m ready. (ฉันพร้อมแล้วค่ะ)
A : What can I get you? (คุณรับอะไรดีครับ)
B : May I have the Fettuccini Alfredo? (เอาพาสต้าอัลเฟรให้ฉันได้ไหมคะ)
A : Will that be all? (แค่นั้นใช่ไหมครับ)
B : Yes, that’s it. (ใช่ค่ะ แค่นั้นค่ะ)
——————————————————————————————————
5. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร
Cony : Hello there, I am Mr. Cony, I have a table for two reserved.
(เฮ็ลโล แด ไอ แอม มิสเตอะ ไวท ไอ แฮฝ อะ เท๊เบิล ฟอ ทู ริเซิฝดึ)
สวัสดีครับ ผมชื่อ โคนี่ ผมได้จองโต๊ะสำหรับสองคนไว้
Hostess : Hello, okay, let me just check. Ok, right this way sir.
(เฮ็ลโล โอ๊เค เล็ท มี จัสท เช็ค โอ๊เค ไรท ดิส เว เซอ)
สวัสดีค่ะ ขอดิฉันเช็คก่อนนะคะ เชิญทางนี้ค่ะท่าน
(พนักงานบริการเดินเข้ามา)
Waitress : Hello, I’m Christina, I will be your waitress today. Can I get you some drinks to start with? We also have some fresh Italian bread and a salad bar if you would like.
(ไฮ ไอม คริสติน่า ไอ วิล บี ยัว เว๊ทเทร็ส ทุเด๊ แคน ไอ เก็ท ยู ซัม ดริงส ทุ สตาท วิ๊ธ วี ออลโซ แอฝ ซัม เฟรช อิทแท๊ลเลียน เบรด แอน อะ แซ๊ลเลิด บา อิฟ ยู วุด ไลค)
สวัสดีค่ะ ดิฉันคริสติน่า ดิฉันจะเป็นพนักงานบริการของคุณวันนี้ จะให้ดิฉันเอาอะไรให้ท่านดื่มก่อนดีคะ เรามีขนมปังอิตาเลียนใหม่ๆและสลัดบาร์อีกด้วย ถ้าท่านต้องการ
Cony : I would love some bread; and some of your best wine please.
(ไอ วุด ลัฝ ซัม เบรด แอน ซัม ออฟ ยัว เบสท ไวน์ พลีส)
ผมขอขนมปังและไวน์ที่ดีที่สุดของคุณครับ
Waitress : Okay, would you like to hear about the specials today?
(โอ๊เค วุด ยู ไลค ทุ เฮีย อะเบ๊า เดอะ สเป๊เชียล ทุเด๊)
ค่ะ ท่านต้องการทราบเกี่ยวกับอาหารพิเศษของวันนี้ไหมคะ
Cony : No thank you. We already know what we want.
(โน แธ็งคิว วี ออลเร๊ดดิ โน ว็อท วี ว็อนท)
ไม่ครับ ขอบคุณ เราทราบแล้วว่าเราต้องการสั่งอะไร
Waitress : Okay then I will be right back with the wine and bread.
(โอ๊เค เด็น ไอ วิล บี ไรท แบ็ค วิธ เดอะ ไวน แอน เบรด)
ค่ะ งั้นดิฉันจะกลับมาพร้อมกับไวน์และขนมปังนะคะ
(ห้านาทีต่อมา)
Waitress : Here is a 2010 Bordeaux and Burgundy wine; you can’t get much better than this anywhere.
(เฮีย อิส อะ ทูเธ๊าเซิน เท็น บอโด๊ แอน เบ๊อกันดี ไวน์ ยู แค๊นท เก็ท มัช เบ็ทเทอะ แดน ดิส เอ็นนิแว)
นี่ค่ะ ไวน์เบอร์กันดีและบอร์โดปี 2010 ท่านไม่สามารถหาที่ไหนได้ดีกว่านี้แล้วค่ะ
Cony : Great.
(เกรท)
เยี่ยมเลย
Waitress : And the Italian bread is still warm from the oven.
(แอน ดิ อิทแท๊ลเลียน เบรด อิส สติล วอม ฟรอม ดิ อ๊อฝเวิน)
และขนมปังอิตาเลียนยังคงอุ่นจากเตาอบค่ะ
Cony : Thank you.
(แธงคิว)
ขอบคุณ
Waitress : Are you ready to order?
(อา ยู เร็ดดิ ทุ ออเด๊อะ)
ท่านพร้อมจะสั่งอาหารหรือยังคะ
Cony : Yes please. My wife would like the Eggplant Parmesan and I am going to have the Lobster Ravioli.
(เย็ส พลีส มาย ไวฟ ไลค์ ดิ เอ็กพลานท พามิแซ๊น แอน ไอ แอม โกวิง ทุ แฮฝ เดอะ ล็อบเสตอะ แรวิโอ๊ลิ)
ครับ ภรรยาผมต้องการมะเขือม่วงอบชีส และผมขอราวีโอลีล็อบเสตอร์
Waitress : Okay, no problem. Can I do anything else for you?
(โอ๊เค โน พร๊อบเบลิม แคน ไอ ดู เอ็นนิธิง เอ็ลส ฟอ ยู๊)
ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา มีอย่างอื่นอีกไหมคะ
Cony : No thanks.
(โน แธงคส)
ไม่ครับ ขอบคุณ
(10 นาทีต่อมา)
Waitress : Here is the Eggplant Parmesan for you, madam and  the Lobster Ravioli for you, sir.
(เฮีย อิส ดิ เอ็กพลานท พามิแซ๊น ฟอ ยู แม๊เดิม แอน เดอะ ล็อบเสตอะ แรวิโอ๊ลิ ฟอ ยู เซอ)
นี่ค่ะ มะเขือม่วงอบชีสสำหรับคุณนาย และราวีโอลี ล็อบเสตอร์สำหรับท่านค่ะ
Cony : Thanks.
(แธงคส)
ขอบคุณครับ
(ลูกค้าทานเสร็จ กวักมือเรียกพนักงานเก็บเงิน)
Cony : Can I have the bill, please.
(แคน ไอ แฮฝ เดอะ บิล พลีส)
ขอบิลด้วยครับ
Waitress : Here is your bill. Thank you for coming and I hope you have a great night.
(เฮีย อิส ยัว บิล แธงคิว ฟอ คั๊มมิง ทุไนท แอน ไอ โฮพ ยู อะ เกรท ไนท)
นี่ค่ะ บิลของคุณ ขอบคุณที่มาและขอให้เป็นคืนที่สดใสนะคะ
Cony : Thank you. We really enjoyed it.
(แธงคิว วี เรี๊ยลลิ อินจ๊อยด อิท)
ขอบคุณ พวกเราประทับใจจริงๆ
(ยี่นเงินให้พร้อมทิป)
Cony : Good night.
(กุดไน๊ท)
ราตรีสวัสดิ์
Waitress : Good night.
(กุดไน๊ท)
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
——————————
Host : Hello sir, welcome to the French Garden Restaurant. How many?
เจ้าของร้าน : สวัสดี คุณผู้ชาย, ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารเฟรนช์ การ์เดน. จำนวนกี่ท่าน?
Charles : One.
ชาร์ลส : หนึ่งคน.
Host : Right this way. Please have a seat. Your waitress will be with you in a moment.
เจ้าของร้าน : งั้นเชิญทางนี้เลย เชิญนั่ง อีกสักครู่พนักงานเสิร์ฟของคุณจะมาคอยบริการ.
Waitress : Hello sir, would you like to order now?
พนักงานเสิร์ฟ : สวัสดี คุณผู้ชาย, ตอนนี้คุณอยากจะสั่งอะไรไหม?
Charles : Yes please.
ชาร์ลส : ใช่ครับ.
Waitress : What would you like to drink?
พนักงานเสิร์ฟ : คุณ อยากจะดื่มอะไรไหม?
Charles : What do you have?
ชาร์ลส : คุณ มีอะไรบ้างล่ะ?
Waitress : We have bottled water, juice, and Coke.
พนักงานเสิร์ฟ : เรามีน้ำดื่ม, น้ำผลไม้, และโค้ก.
Charles : I’ll have a bottle of water please.
ชาร์ลส : ผมขอน้ำเปล่าขวดหนึ่ง.
Waitress : What would you like to eat?
พนักงานเสิร์ฟ : คุณอยากจะทานอะไร?
Charles : I’ll have a tuna fish sandwich and a bowl of vegetable soup.
ชาร์ลส : ผมจะทาน แซนวิชปลาทูน่า และ ซุปผักสักถ้วย.
ที่มา:http://www.thaistudyguide.com/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2/

หลักการใช้ Verb to have
หลักการใช้ Verb to have
  • หลักการใช้ Verb to have คือ ประธานเอกพจน์ ใช้ has ประธานพหูพจน์ใช้ have
HE, SHE, IT, A CAT
HAS
I, YOU, WE, THEY, CATS
HAVE
จริงๆแล้วคำว่า has คือการเติม s ที่ท้ายคำว่า have แต่ถ้าเราเติม s ที่ท้ายคำก็จะเป็น haves ซึ่งมันดูพิลึกก็เลยตัดตอนเหลือ แค่ has ก็พอ

VERB TO HAVE ใน TENSE ต่างๆ

1. Present Simple Tense   
  •   Have Has  แปลว่า  มี, กิน, ดื่ม  (ประธาน+ have, has + นาม) แต่ในที่นี้ขอยกตัวอย่าง มี นะครับ
have a dog. ผมมีสุนัขตัวหนึ่ง
He has a black car. เขามีรถยนต์สีดำคันหนึ่ง
A cat has four legs. แมวมีสี่ขา
Dogs have two eyes. หมาทั้งหลายมีสองตา
I usually have  rice and curry. โดยปกติผมกินข้าวกับแกง
She always has a cup of tea in the morning. หล่อนดื่มชาหนึ่งถ้วยในตอนเช้าเสมอ
2. Present Perfect Tense  (เรียนรู้เต็มๆในเรื่อง Present Perfect Tense)
  • Have, Has + กริยาช่อง 3 ( อย่าแยกแปล ให้แปลควบกับคำกริยา)
have eaten. ผมกินแล้ว
He has been to Pattaya. เขาไปพัทยามาแล้ว (has been to = เคยไปมาแล้ว)
The train has left.   รถไฟไปแล้ว

การย่อรูป

I have = I’ve ( ไอ แฮฝ = ไอฝ)
I have not = I’ve not / I haven’t (ไอ แฮฝ น็อท = ไอฝ น็อท / ไอ แฮฝเวินท)
He has = He’s (ฮี แฮส = ฮีส)
He has not = He’s not/ He hasn’t ( ฮี แฮส น็อท = ฮีส น็อท / ฮี แฮสเซินท)
She has = she’s (ชี แฮส = ชีส)
She has not = She’s not/ She hasn’t (ชี แฮส น็อท = ชีส น็อท/ ชี แฮสเซินท)
It has = It’s (อิท แฮส = อิทส)
It has not = It’s not/ It hasn’t (อิท แฮส น็อท = อิทส น็อท / อิท แฮสเซินท)
You have = You’ve (ยู แฮฝ = ยูฝ)
You have not = You’ve not / You haven’t (ยู แฮฝ น็อท = ยูฝ น็อท / ยู แฮฝเวินท)
We have = We’ve (วี แฮฝ = วีฝ)
We have not = We’ve not / We haven’t (วี แฮฝ น็อท = วีฝ น็อท / วี แฮฝเวินท)
They have = They’ve (เด แฮฝ = เดฝ)
They have not = They’ve not / They haven’t  (เด แฮฝ น็อท = เดฝ น็อท / เด แฮฝเวินท)

ประโยคบอกเล่า

  • ประโยคบอกเล่าจะเป็นโครงสร้างธรรมดา คือ ประธาน + have, has + นาม (ประโยคบอกเล่าไม่นิยมย่อรูป)
โครงสร้าง
HE, SHE, IT, A CAT
HAS
A CAR.
I,YOU, WE, THEY, CATS
HAVE
A CAR.
have a car. ผมมีรถยนต์
He has a cat. เขามีแมว
She has a ball. หล่อนมีบอล
It has four legs. มันมีสี่ขา
A cat has two ears. แมวตัวหนึ่งมีสองหู
You have many friends. คุณมีเพื่อนหลายคน
We have a computer. พวกเรามีคอมพิวเตอร์
They have  a big house. พวกเขามีบ้านใหญ่
Cats have two eyes. แมวทั้งหลายมีสองตา

ประโยคปฏิเสธ

  •  โครงสร้างปฏิเสธ ให้เอา do not กับ does not  มาใช้ครับ และคำว่า has ต้องกลับร่างเป็น have ดังเดิม เพราะคำว่า does มี  s อยู่แล้ว have ก็ไม่ต้องเติม s อีก
HE, SHE, IT, A CAT
DOES NOT
HAVE
A CAR.
I, YOU, WE, THEY, CATS
DO NOT
HAVE
A CAR.
การย่อรูป
do not  =  don’t
does not = doesn’t
don’t have a car. ผมไม่มีรถยนต์
He doesn’t have a cat. เขาไม่มีแมว
She doesn’t have a ball. หล่อนไม่มีบอล
It doesn’t have four legs. มันไม่มีสี่ขา
A cat doesn’t have two ears. แมวตัวหนึ่งไม่มีสองหู
You don’t have many friends. คุณไม่มีเพื่อนหลายคน
We don’t have a computer. พวกเราไม่มีคอมพิวเตอร์
They don’t have a big house. พวกเขาไม่มีบ้านใหญ่
Cats don’t have two eyes. แมวทั้งหลายไม่มีสองตา

ประโยคคำถาม  YES / NO QUESTION

การทำประโยคคำถามให้เอา Do , Does  มาวางไว้หน้าประโยค ส่วนคำว่า has ก็เปลี่ยนเป็น have และอย่าลืมเติมเครื่องหมายคำถามท้ายประโยคด้วยนะครับ
ประโยคคำถามแบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ ถามในรูปแบบบอกเล่า และถามรูปแบบปฏิเสธ
1. การถามในรูปแบบบอกเล่า
DOES
HE, SHE, IT, A CAT
HAVE
A CAR?
DO
I, YOU, WE, THEY, CATS
HAVE
A CAR?
  • Do I have a car? ผมมีรถยนต์ใช่ไหม
    Yes, you do./ No, you don’t. ใช่ / ไม่ใช่
  • Does he have a cat? เขามีแมวใช่ไหม
    Yes, he does.  No, he doesn’t.ใช่ / ไม่ใช่
  • Does she have a ball? หล่อนมีบอลใช่ไหม
    Yes, she does.  No, she doesn’t.ใช่ / ไม่ใช่
  • Does it have four legs? มันมีสี่ขาใช่ไหม
    Yes, it does.  No, it doesn’t.ใช่ / ไม่ใช่
  • Does a cat have two ears? แมวตัวหนึ่งมีสองหูใช่ไหม
    Yes, a cat does.  No, a cat doesn’t.ใช่ / ไม่ใช่
  • Do you have many friends? คุณมีเพื่อนหลายคนใช่ไหม
    Yes, I do. / No, I don’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Do we have a computer? พวกเรามีคอมพิวเตอร์ใช่ไหม
    Yes, we do. / No, we don’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Do they have  a big house? พวกเขามีบ้านใหญ่ใช่ไหม
    Yes, they do. / No, they don’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Do cats have two eyes? แมวทั้งหลายมีสองตาใช่ไหม
    Yes, cats do. / No, cats don’t. ใช่  / ไม่ใช่
2. การถามในรูปแบบปฏิเสธ
การถามในรูปปฏิเสธแบ่งออกอีกสองประเด็นคือ ในรูปแบบเต็ม และรูปแบบย่อ
  • รูปแบบเต็ม
DOES
HE, SHE, IT, A CAT
NOT
HAVE
A CAR?
DO
I, YOU, WE, THEY, CATS
NOT
HAVE
A CAR?
  • รูปแบบย่อ
DOESN’T
HE, SHE, IT, A CAT
HAVE
A CAR?
DON’T
I, YOU, WE, THEY, CATS
HAVE
A CAR?
  • Do I not have a car? ผมไม่มีรถยนต์ใช่ไหม
    Yes, you do./ No, you don’t. ใช่ / ไม่ใช่
  • Doesn’t he have a cat? เขาไม่มีแมวใช่ไหม
    Yes, he does.  No, he doesn’t.ใช่ / ไม่ใช่
  • Does she not ave a ball? หล่อนไม่มีบอลใช่ไหม
    Yes, she does.  No, she doesn’t.ใช่ / ไม่ใช่
  • Does it not have four legs? มันไม่มีสี่ขาใช่ไหม
    Yes, it does.  No, it doesn’t.ใช่ / ไม่ใช่
  • Doesn’t a cat have two ears? แมวตัวหนึ่งไม่มีสองหูใช่ไหม
    Yes, a cat does.  No, a cat doesn’t.ใช่ / ไม่ใช่
  • Don’t you not have many friends. คุณไม่มีเพื่อนหลายคนใช่ไหม
    Yes, I do. / No, I don’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Don’t we have a computer. พวกเราไม่มีคอมพิวเตอร์ใช่ไหม
    Yes, we do. / No, we don’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Do they not have  a big house. พวกเขาไม่มีบ้านใหญ่ใช่ไหม
    Yes, they do. / No, they don’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Do cats not have two eyes. แมวทั้งหลายไม่มีสองตาใช่ไหม
    Yes, cats do. / No, cats don’t. ใช่  / ไม่ใช่
*** ไม่ว่าคำถามจะเป็นอย่างไร ถ้ามีก็บอกว่าใช่ ถ้าไม่มีก็บอกว่าไม่ เช่น คุณไม่มีรถยนต์สักคัน แล้วมีคนถามว่า
Do you have a car? คุณมีรถยนต์ใช่ไหม
No, I don’t. ไม่ (ถูกต้องครับ เพราะคุณไม่มีจริงๆ)
Don’t  you have a car? คุณไม่มีรถยนต์ใช่ไหม
คุณจะตอบว่าอย่างไร
Yes, I do. ใช่ (แปลว่าคุณมี)
No, I don’t. ไม่ (แปลว่าไม่มี)
ต้องตอบว่า No นะครับ ถ้าตอบว่า Yes หมายความว่าคุณมีนะครับ อาจแตกต่างจากภาษาไทยนิดหน่อย

ประโยคคำถาม WH- QUESTION

ให้เอาคำเหล่านี้ (Who, What, Where, When, Why, How) นำหน้าประโยค ตามด้วย have, has
Who has a cat? ใครมีแมว
Somchai does. สมชายมี
What do you have? คุณมีอะไร
I have a bird. ฉันมีนกหนึ่งตัว
Where do you usually have dinner? ปกติคุณทานอาหารเย็นที่ไหน
I usually have dinner at home?  ปกติผมทานอาหารเย็นที่บ้าน
When do you usually have coffee?  ปกติคุณดื่มกาแฟตอนไหน
I usually drink coffee in the afternoon. ปกติผมดื่มกาแฟตอนบ่าย
Why do have many friends? ทำไมคุณมีเพื่อนมากมาย
I don’t want to be alone. ฉันไม่ต้องการเดียวดาย
How many brothers do you have?คุณมีพี่ชายกี่คน
I have two brothers. ฉันมีพี่ชายสองคน
ที่มา:http://x12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/
ที่มา:http://www.oknation.net/blog/home/album_data/435/56435/album/47979/images/430275.jpg